เชื่อว่าผู้ซื้อบ้าน คอนโด ที่อยู่อาศัยทุกท่าน ย่อมคาดหวังที่จะได้รับคุณภาพ สภาพที่ดีที่สุด ที่เหมาะสมกับจำนวนเงินที่เราต้องจ่ายไปทุกบาท ทุกสตางค์ ดังนั้นการตรวจบ้าน-คอนโดก่อนโอนนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ โครงการจะทำการเรียกผู้ซื้อไปตรวจสภาพหลังที่เราต้องการจะซื้อ ในก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายกัน และโดยส่วนมากแล้ว ทางโครงการมักจะให้เราวางเงินมัดจำก่อนที่จะทำการเข้าตรวจบ้าน-คอนโด
โดยปกติแล้วขั้นตอนในการตรวจบ้าน-คอนโดก่อน ทางโครงการจะให้เราตรวจได้สองครั้ง คือ รอบแรกเป็นการตรวจหาจุดบกพร่อง และรอบสองจะเป็นการตรวจสอบจุดบกพร่องที่ได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งในการตรวจรอบสองนี้มีความสำคัญไม่แพ้กับรอบแรก อาจจะเกิดปัญหาในบางจุดที่ทางโครงการไม่ได้ดำเนินการแก้ไข หรือดำเนินการแก้ไม่ครบตามที่ต้องการ ทั้งนี้ทางโครงการอาจจะอ้างว่าตัวบ้านมีประกัน ผู้ซื้อสามารถเรียกให้ทางโครงการเข้ามาแก้ไขได้ในภายหลัง และเร่งรัดให้เราทำสัญญาซื้อขายกันก่อน หากไม่ทำทางโครงการจะยึดเงินมัดจำที่เราวางไว้
สามารถเรียกเงินมัดจำคืนได้หรือไม่? หากโครงการไม่แก้ไขข้อบกพร่อง
ในฐานะที่เราวางเงินมัดจำตกลงที่จะซื้อบ้าน หรือคอนโดที่ได้รับมาตราฐานในการก่อสร้างตามที่ต้องการ และทางโครงการในฐานะผู้ที่รับเงินมัดจำ ต้องมีหน้าที่จัดเตรียมบ้าน-คอนโด ให้ได้มาตราฐานตามที่ผู้ซื้อต้องการ
ดังนั้นเมื่อผู้ซื้อได้ทำการเข้าตรวจบ้าน-คอนโด ก่อนโอนในรอบแรก และชี้ให้เห็นถึงจุดบกพร่องกับทางโครงการทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป แต่ทางโครงการกลับละเลยไม่ได้ดำเนินการแก้ไขจุดปัญหาดังกล่าว หรือไม่ครบถ้วนตามที่ผู้ซื้อต้องการ…
“ผู้ซื้อจะสามารถเรียกเงินมัดจำคืนจากโครงการได้เนื่องจากถือว่าทางโครงการละเลยไม่ชำระหนี้ ทั้งนี้ตามประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 378…”
มัดจำนั้นถ้าไม่ได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้เป็นไป ดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ… ให้ส่งคืน หรือจัดเอาเป็นการใช้เงินบางส่วนในเมื่อชำระหนี้ ให้ริบ ถ้าฝ่ายที่วางมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ หรือการชำระหนี้ ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่ง
ซึ่งฝ่ายนั้นต้องรับผิด หรือถ้ามีการเลิกสัญญา เพราะความผิดของฝ่ายนั้น ให้ส่งคืน ถ้าฝ่ายที่รับมัดจำละเลยไม่ชำหรี้ หรือการชำระหนี้ตกเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่ง ฝ่ายนี้ต้องรับผิดชอบ
ขอบคุณ keyhomechecker